บุญใหญ่มหากุศล วัดสำคัญของเชียงใหม่
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ จัดโปรแกรมพิเศษ ร่วมทริปบุญใหญ่มหากุศล มงคลสูงสุดแห่ง...ล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปร่วมสร้างอาคารแสงส่องหล้า หลังที่ 11 ซึ่งเป็นหลังแรกของจัดหวัดเชียงใหม่ ณ วัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่ ให้เป็นศูนย์พัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารและส่งเสริมคุณภาพผู้สูงอายุ พร้อมกับเยี่ยมชมวัด และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเริ่มเดินทางกันในช่วงค่ำของวันที่ 30 มกราคม 2563 เช้าวันที่ 31 มกราคม 2563 คณะของเราเดินทางไปยังวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตั้งอยู่บริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ในตำบลพระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ ตามประวัติเล่าว่า วัดนี้เดิมชื่อว่า วัดลีเชียงพระ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 ในสมัยพระเจ้ามังราย ต่อมาในสมัยของพญาแสนเมืองราจึงมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากเชียงราย มาประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้
วิหารหลวง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2467 โดยครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชญ ด้านหลังของวิหารเป็นที่ตั้งของอุโบสถ เยื้องออกไปเป็นที่ตั้งของ วิหารลายคำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ ที่สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 20 สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสะดุดตาคือ หอธรรม หรือหอไตร อาคาร 2 ชั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวิหารหลวง จากนั้นไปต่อกันที่ วัดพระธาตุดอยคำ ที่ตั้งอยู่ที่ ต.แม่เหียะ บนดอยคำ ด้านหลังของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำรถใหญ่ขึ้นมา คณะของเราจึงต้อง เปลี่ยนเป็นขึ้นรถสองแถวกันขึ้นไป วัดนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ.1230 ในสมัยของพระนางจามเทวี ถึงปัจจุบันมีอายุกว่า 1,300 ปี ที่นี่คลาคร่ำไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาไหว้ หลวงพ่อทันใจ ที่โจษจันกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ว่า ขออะไรก็จะได้สิ่งนั้น แต่มีข้อแม้ว่าต้องขอเพียงสิ่งเดียว
สิ่งที่ใช้เป็นเครื่องบนบานศาลกล่าว ก็คือดอกมะลิ ตั้งแต่ 50 พวงขึ้นไป จึงไม่หน้าแปลกใจที่เมื่อเดินเข้ามาจะเห็นพวงดอกมะลิกองโตวางเรียงรายอยู่มากมาย หลวงพ่อทันใจ สร้างในรัชสมัยของพญากือนา หรือพญาธรรมิกราช กษัตริย์ ลำดับที่ 6 ช่วง พ.ศ. 1898- 1928 แห่งอาณาจักรล้านนา และด้วยอายุกว่า 1,300 ปีของวัดพระธาตุดอยคำ ทำให้วัดแห่งนี้เคยถูกทิ้งร้างมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง นับจากอาณาจักรล้านนาเสื่อมลง จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2509 มีชาวบ้านมาพบโบราณวัตถุ เช่น พระรอดหลวง จึงได้มีการบูรณะวัดนี้ให้กลับมาสวยงามขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อปี 2524
พระธาตุดอยคำ เดิมชื่อว่า วัดสุวรรณบรรพต อยู่ห่างจากตัวเมือง จ.เชียงใหม่ประมาณ 10 กิโลเมตร นอกจากพระเจ้าทันใจแล้ว ที่นี่ยังมีเจดีย์ที่พระนางจามเทวี ที่สร้างขึ้นบรรจุเกศาธาตุ หรือเส้นผมของสมเด็จพระสัมนาสัมพุทธเจ้า อาหารกลางวันของคณะเราวันนี้ อยู่ที่ร้านอาคารกาแล อิ่มแล้วก็เคลื่อนย้ายนำสัมภาระเข้าเก็บในที่พักที่สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล พร้อมเปลี่ยนชุดเป็นสีขาวเพื่อเข้าร่วมงานสะเดาะเคราะห์ที่วัดพระบาทบางแฟน วัดพระบาทปางแฟน สร้างโดยพญามังราย ที่มาตั้งค่าย แล้วเห็นรอยพระพุทธบาท จึงได้นำสมบัติมาฝังไว้ใต้รอยพระพุทธบาท และสร้างพระอารามให้พระเณรมาจำพรรษา ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2442 มีหมู่บ้านปางแฟนเกิดขึ้นในบริเวณที่เป็นเมืองโบราณ พร้อมกับการสร้างที่พักให้กับสงฆ์ และค่อยๆพัฒนาขึ้นมาจากการสร้างวิหารหลังแรกโดยการนำของแม่ชีเกณฑ์ และแม่ชีน้อย วัดแห่งนี้มีพระมาจำพรรษาสืบเนื่องมาจนถึงปี 2546 พระครูปลัดกฤต ฐิตวิริโย หรือครูบาโต จากเมืองแพร่ จึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน และพัฒนาวัดพระบาทปางแฟน ให้เจริญรุ่งเรืองดังเช่นปัจจุบัน และท่านพระครู เมตตาจัดพิธี สะเดาเคราะห์ในช่วงบ่ายของวันที่ 31 มกราคม 2563 และพิธีสืบชะตา ซึ่งเป็นพิธีต่อเนื่องกับพิธีสะเดาะเคราะห์ในช่วงเช้าของวันที่ 1 มกราคม 2563 ให้กับคณะของเรา