เตรียมเลย คิกออฟต้นพ.ค.นี้ โครงการ ทัวร์เที่ยวไทย

“ททท.” ย้ำชัดเงื่อนไขโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” รัฐช่วยจ่ายค่าทัวร์สูงสุด 5,000 บาท คิกออฟภายในสัปดาห์แรก พ.ค.นี้
 
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ที่รัฐบาลจะช่วยจ่ายเงิน 40% สนับสนุนให้ออกเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดาผ่านบริษัทนำเที่ยว สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน ของแพ็คเกจราคาทัวร์ไม่เกิน 12,500 บาท เตรียมเปิดให้ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯในช่วงหลังวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ ส่วนประชาชนคาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิได้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.นี้
 
เงื่อนไขหลักของประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิโครงการทัวร์เที่ยวไทย
ประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
รายการนำเที่ยวที่เลือกซื้อ ต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดเท่านั้น
ต้องเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมโปรแกรมกลางทาง
อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมใช้สิทธิโครงการทัวร์เที่ยวไทย ใช้ได้ 1 คนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 ครั้งเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์ราคารวม 5,000 บาท จะได้รับสิทธิเป็นเงินรัฐช่วยจ่ายค่าแพ็คเกจทัวร์มูลค่า 2,000 บาท จากมูลค่ารัฐช่วยจ่าย 40% สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท เท่ากับว่าอีก 3,000 บาทที่เหลือ จะไม่สามารถใช้ได้อีก
ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเข้าร่วมได้ทั้งโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” แต่ไม่สามารถใช้ในเวลาเดียวกันได้ เพื่อป้องกันการได้รับส่วนลดซ้ำซ้อน
 
 
เงื่อนไขหลักของผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวในการเข้าร่วมโครงการทัวร์เที่ยวไทย 
ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว จะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายก่อนวันที่ 1 ม.ค.2563 เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จริง
บริษัทนำเที่ยวสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้สูงสุดไม่เกิน 1,000 คนต่อ 1 บริษัท
บริษัทนำเที่ยวจะต้องนำเสนอรายการนำเที่ยว 15 รายการ (แบ่งประเภท รูปแบบการให้บริการ ราคา และเงื่อนไขราคา)
ไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ เบื้องต้นสามารถแบ่งระดับราคาแพ็คเกจทัวร์ได้ 3 ระดับ ตั้งแต่ราคาถูก (Silver), ปานกลาง (Gold) และสูง (Platinum) โดยจะมีคณะทำงานฯ ตรวจสอบคุณภาพและความคุ้มค่าของแพ็คเกจ ก่อนอนุญาตให้นำขึ้นบนเว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย เพื่อเสนอขายให้ประชาชนเป็นการทั่วไป และต้องแสดงรายละเอียดชัดเจน เช่น ชื่อของโรงแรมและร้านอาหารในรายการนำเที่ยว 
สำหรับการตรวจสอบว่ามีการเดินทางจริงหรือไม่ จะมีการสแกนคิวอาร์โค้ดและสแกนใบหน้า นอกจากนี้คณะทำงานตรวจสอบข้อมูลการเดินทางจริงของผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้หากข้อมูลไม่ถูกต้อง ให้คณะทำงานพิจารณาตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม เช่น Rooming List, Folio รูปถ่ายหมู่คณะ และอื่นๆ
เมื่อได้รับการตรวจสอบว่ามีการเดินทางจริง จึงเข้าสู่ขั้นตอนอนุมัติโอนเงินให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวตามเกณฑ์ที่กำหนด 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ